มีฐานที่พักของใจ 7 ตามฐานของที่มาเกิด
เมื่อทุกท่านสวดมนต์ อารธนา บูชา
1. ปากช่องจมูก หญิงซ้าย ชาย ขวา2. เพลาตา หญิงซ้าย ชาย ขวา
3. ที่จอมประสาท อยู่ในกระโหลกศรีษะของเรา
4. ปากช่องเพดาน หรือเพดานปาก ตรงจุดหมายที่เราเคยสำลักน้ำสำลักอาหาร
5. ปากช่องลำคออยู่ในหลอดลำคอของเรา อยู่เหนือลูกกระเดือกนิจหนึ่ง
6. ฐานของศูนย์กลางกาย โบราณ "สิบ " อยู่ในท้องของเราได้ระดับเดียว
กับสะดือพอดี
7. ศูนย์กลางกาย "ศูนย์ " สูงขึ้นมาจากฐานที่หก ประมาณ สองนิ้วมือใคร
นิ้วมือท่าน โดยประมาณ ภายในกายของมนุษย์หยาบ จะมีกายละเอียด
ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตามนุษย์ได้ ซ้อนเข้าไปข้างในเป็นชั้น
ภายในกายของมนุษย์หยาบ
จะมีกายละเอียด ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตามนุษย์ได้ ซ้อนเข้าไปข้างในเป็นชั้น
ลึกเข้าไปข้างในอย่างสมนัยกัน รวมทั้งหมด 18 กาย โดยที่ทุกกายก็จะมีฐาน ทั้ง 7 เช่นเดียวกัน
ส่วนนี้ คือการกล่าวภาพรวม ที่ครูนำวิชชา ใช้เป็นบทนำ ใช้เวลา ประมาณ 1.30 -1.45 นาที
วันละ 2 รอบ ห้องใหญ่
ส่วนห้องเล็ก ตัด 18 กายออกทั้งหมด ใช้เวลาเดินวิชชา
+ การแผ่เมตตาอัปปมัญญา ประมาณ45 นาที
อธิษฐานบารมี : ตั้งใจแน่แน่วในการทำความดีให้ บรรลุตามคำอธิษฐาน
เรื่องอธิษฐานบารมีเป็นเรื่องสำคัญ หากเปรียบบุญเป็นเงิน เราต้องตั้งวัตถุประสงค์ว่าเงินนี้จะเอาไปใช้อะไร แล้วเราก็เอาเงินไปใช้เพื่อการนั้นแต่เงินนี้ต่างกับบุญ ก็คือเราเก็บไว้ไว้มาก ๆ เห็นว่าจะเอาไปใช้อะไร เราก็จ่ายไปเพื่อการนั้น ส่วนเรื่องบุญไม่เหมือนเงิน บุญส่วนนี้จะใช้อะไร
ก็อธิษฐานไว้ เรียกว่าอธิษฐานบารมี ถึงเวลาบุญส่วนนั้นก็บันดาลให้เป็นไปตามคำอธิษฐาน
จะอธิษฐานอย่างไร จึงจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเรา เรื่องนี้ต้องเรียน จะพูดกันนิดหน่อยไม่ได้ และต้องเรียนกันถึงขั้นแตกฉาน เราจึงตัดสินใจถูกต้อง
ว่าจะอธิษฐานว่าอะไร จะขอยกตัวอย่างการอธิษฐานที่เป็นตัวปัญหา
1. ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี
ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระสาวกทุกองค์ พระโพธิสัตว์ทุกองค์ พรหมทุกองค์ เทวดาทุกองค์
พ่อแม่ครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณทุกท่าน จงมาสถิตอยู่เหนือเศียรเกล้าของข้าพเจ้า ขอให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้าศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์จงทุกประการเทอญ
บุญกุศลที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมาในอดีตชาติก็ดี ในปัจจุบันชาติก็ดี และที่จะบำเพ็ญไปจนกว่าที่จะถึงซึ่งพระนิพพานก็ดี ที่จะให้ผลแก่ข้าพเจ้าเพียงใด ข้าพเจ้าขออุทิศส่วน
กุศลนั้นให้แก่จิตวิญญาณทุกดวง ทั้งหมื่นโลกธาตุ แสนโกฏิจักรวาล อนันต์จักรวาล ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้อนุโมทนาในกุศลนั้น และจงพลันบังเกิดเป็นเครื่องสักการะ
บรรณการอันเป็น
ทิพย์ ที่ท่านยินดีพอใจเป็นร้อยเท่าพันทวีที่ท่านต้องการ ขอให้ท่านจงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธรรมสาร สมบัติพิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผล
ด้วยลาภ ยศ สุข สรรเสริญ และอธิบดีอันเป็นทิพย์ยิ่งยิ่ง ขึ้นไป ท่านคิดปรารถนาสิ่งใด ขอจงได้สำเร็จสมความปรารถนาทุกสิ่งทุกประการตลอดเวลา
ขอให้ท่านจงสถิตอยู่ในฐานะบิดา มารดา ช่วยบำรุงรักษาข้าพเจ้าซึ่งอยู่ในฐานะลูกสาว-ลูกชาย ให้ปราศจากภัยอันตรายจะมาแผ้วพาน ขอให้เจริญรุ่งเรืองในทุกสิ่ง
ทุกประการ จนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในอนาคตกาลอันใกล้นี้ด้วยเทอญ
อนึ่งบุญใดที่ท่านทั้งหลายได้บำเพ็ญมาทุกภพทุกชาติ ข้าพเจ้าขออนุโมทนา ขอให้ข้าพเจ้าจงมีส่วนแห่งบุญนั้นจงทุกประการเทอญ
สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านทั้งหลายด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี ข้าพเจ้าขอกราบแทบเท้าขอขมาขอท่านทั้งหลายจงโปรด
เมตตายกโทษอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ
สิ่งใดที่ท่านทั้งหลายได้เคยล่วงเกิดข้าพเจ้ามาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี ข้าพเจ้าขอยกโทษอโหสิกรรมให้ทั้งหมดทั้งสิ้น
ขอท่านทั้งหลายจงช่วยเสริมพลังบารมีแก่ข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าคิดจะประกอบกิจการอันใด ที่ไม่ผิดทำนองคลองธรรม ขอให้พลันสำเร็จเป็นอัศจรรย์เหนือมนุษย์ทั้งปวงด้วยเทอญ
ขออันเชิญพระศรีอาริย์ เจ้าแม่กวนอิม กระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ พระอรหันต์จี้กง เซียนทั้ง 8 พระอิศวร นารายณ์ พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาล ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4
แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระเพลิง แม่พระพาย พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เทวดาทั้งหลาย นายนิริยบาลทั้งหลาย ท่านผู้มีตาทิพย์ หูทิพย์ ใจทิพย์ทั้งหลาย ท่านผู้มีวิชชาอภิญญา
ปฏิสัมภิทาทั้งหลาย จงมารับเอาส่วนกุศลและเป็นพยานในการสร้างกุศลและอุทิศส่วนกุศลพร้อมทั้งนำข่าวคำอธิษฐานของข้าพเจ้า ไปบอกกล่าวแก่สรรพสัตว์ให้รู้ทั่วหน้ากันทุกภูมิทุกชั้น
และช่วยทำคำอธิษฐานนั้นให้เป็นจริงด้วยเทอญ
(คำอธิษฐานนี้ขอให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ขอให้ได้มนุษย์สมบัติมหาศาล ทิพย์สมบัติมหาศาล มอบบารมีที่สร้างได้ไปให้แก่เจ้ากรรมนายเวร แล้วอัญเชิญธรรมทุกภาค
ทั้งภาคบุญ ภาคบาป ภาคไม่บุญไม่บาปเข้ามาปกครองใจตนเอง แต่ไม่มีความรู้และเข้าไม่ถึงธรรมกาย คิดว่าอธิษฐานให้สารพัดธรรมทั้งปวงนั้นไปบอกข่าวบุญที่ตนอุทิศให้แก่เป้าหมาย
เล่นฝากปลาย่างไว้กับแมวป่าอย่างนี้ก็สบายแมวไปเท่านั้นเอง ท่านทั้งหลายอ่านแล้วเห็นข้อบกพร่องของการอธิษฐานบารมีหรือไม่ ถ้ายังมองไม่ออกก็ขอให้อ่านข้อต่อไปนะครับ)
ตัวอย่างที่ 2
2. ด้วยบุญที่ข้าพเจ้าได้ตั้งใจกระทำไว้ดีแล้วนี้
ขอให้มีดวงปัญญาสว่างไสว ยิ่งกว่าดวง อาทิตย์ยามเที่ยงวัน นับอสงไขยดวงไม่ถ้วน ให้รู้แจ้ง เห็นจริง ตามความเป็นจริง แทงตลอดทุกสรรพศาสตร์วิชาความรู้แห่งความเสื่อมและความเจริญเป็นผู้เฉียบแหลมในอรรถและธรรม
ขอให้ญาณของข้าพเจ้าเป็นไปไม่ข้องขัดในธรรมะที่ควรรู้ประดุจลมพัดไปในอากาศ ฉะนั้น
ไปทุกภพ ทุกชาติ
ขอให้มีสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่องและขอให้มีสมบัติอจินไตย ใช้ไม่รู้จักหมดจักสิ้น
ให้ได้สมบัติมาใช้สร้างบุญ สร้างบารมีได้อย่างเต็มอิ่มเต็มใจ ขอให้รวยเป็นอัศจรรย์ทันตาเห็น
ในชาตินี้และทุก ๆ ชาติ
ขอให้เข้าถึงฐานะความเป็นเศรษฐี อภิอัครมหาเศรษฐี ผู้ใจบุญ ค้ำจุดพระพุทธศาสนา มีมหาสมบัติมากมายหลั่งไหลเข้ามาหาข้าพเจ้าทุกทิศทุกทาง ทั้งหลับทั้งตื่น ยืน เดิน นั่ง นอน
ให้นำสมบัติเหล่านั้นมาใช้สร้างบุญ สร้างบารมีอย่างไม่รู้จักหมดสิ้น
ขอให้ทักขิไนยบุคคลมารับทานของข้าพเจ้า ให้ได้มีโอกาสสร้างบุญ สร้างบารมีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ทุกภพทุกชาติ ขอคำว่า ไม่มี ไม่ได้ ไม่สำเร็จ ไม่รู้ จงอย่าได้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าไปทุกภพ
ทุกชาติ ขอให้บาปกรรมอันใดที่ข้าพเจ้าได้ผิดพลาดทำไป ขอให้ตามไม่ทัน ขอให้ไม่มีโอกาสส่งผล ขอให้เป็นอโหสิกรรม ขอให้บุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้ดีแล้ว จงรุมส่งผลก่อน
ส่งผลทันที ส่งผลศักดิ์สิทธิ์และขอให้ความปรารถนาใด ๆ ของข้าพเจ้าที่เป็นไปในทางที่ชอบประกอบไปด้วยกุศล จงสัมฤทธิ์ผลดั่งกมลที่มุ่งมาดปรารถนาได้โดยง่ายทุกเมื่อ ไปทุกภพ ทุกชาติ
ขอให้ได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้เพศบริสุทธิ์ มีร่างกายได้ลักษณะมหาบุรุษครบถ้วน 32
ประการ ให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง งดงาม สง่าเป็นที่น่าเลื่อมใส ไม่มีทุกข์โศก โรคภัย ไข้เจ็บ เบียดเบียน ให้มีร่างกายเหมาะสมกับการปฏิบัติธรรม มีอายุขัยยืนยาวเกินกว่าอายุขัย
ในยุคนั้น ๆ ที่ข้าพเจ้าไปเกิด ขอให้ได้ที่สุดแห่งทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ คุณสมบัติ บริวารสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มรรคผลนิพพาน และได้สร้างบารมีไปได้นาน ๆ ไปทุกภพ
ทุกชาติ สามารถระลึกชาติได้หนึ่งล้านชาติเป็นอย่างน้อย ไปทุกภพ ทุกชาติ สามารถระลึกชาติได้หนึ่งล้านชาติเป็นอย่างน้อย ไปทุกภพ ทุกชาติ
ขอให้ข้าพเจ้าไม่พึงประกอบด้วยทิฐิชั่ว พึงประกอบด้วยทิฐิที่ดีงาม ไม่พึงคบมิตรชั่ว พึงคบแต่บัณฑิตทุกเมื่อ ให้รอบกายของข้าพเจ้ามีแต่บัณฑิตนักปราชญ์เป็นกัลยาณมิตร คนภัย
คนพาลที่จะนำความเดือดร้อนมาให้ข้าพเจ้า ขออย่าได้เข้าใกล้ข้าพเจ้าเลยไป ทุกภพ ทุกชาติขอให้มีใจที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ หลุดพ้นจากอำนาจของพญามาร เมื่อใดทีข้าพเจ้าจะหลับตา
ลาจากโลกนี้ไป ขอให้มีดวงจิตผ่องใส มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ไม่หลงตาย บาปอกุศลที่ผิดพลาดทำมาในอดีต ขอให้นึกไม่ออก ขอให้จำไม่ได้ ให้ตายอย่างสงบ อย่าได้ตายอย่างทรมาน
เมื่อจิตเคลื่อนออกจากกาย ขอให้มีราชรถพร้อมเหล่าบริวารมารอรับ แล้วไปเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ 3 รอบ นึกถึงบุญ แล้วไป ณ สวรรค์ชั้นดุสิต ในวงบุญพิเศษ
เขตบรมโพธิสัตว์ไปทุกภพ ทุกชาติ
ขอให้ข้าพเจ้าได้ติดตาม ตามติด หลวงปู่สด จันทสโร หลวงพ่อธัมม ชโย หลวงพ่อทัตตชีโว คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง และหมู่คณะเพื่อสร้างบารมีไปได้ตลอด
รอดฝั่ง ทุกภพ ทุกชาติ ขอให้ได้เกิดในเขตปฏิรูปเทส ได้พบพระพุทธศาสนา ได้มีโอกาสฟังธรรมเครื่องพ้นทุกข์ ได้มีโอกาสบรรลุธรรม ได้เข้าถึงพระธรรมกายโดยง่าย แตกฉานในวิชชา
ธรรมกายได้โดยง่ายไปทุกภพ ทุกชาติ ไม่ว่าจะเดินทางไปแห่งหนตำบลใด ก็ขอให้เกิดมหาโชคลาภไปทุก ๆ ที่ ให้มีคนคอยต้อนรับเชื้อเชิญอย่างดี เดินทางไปที่ใดก็ขอให้มีพาหนะชั้นเลิศ
ให้เดินทางสร้างบารมีได้อย่างสะดวกสบาย ไปทุกภพทุกชาติ ไม่ว่าข้าพเจ้าจะปรารถนาสิ่งใดที่เป็นบุญกุศล ไม่มีบาปเจือปนเลยแม้แต่เล็กน้อย ขอจงเป็นผลสำเร็จแก่ข้าพเจ้าโดยง่าย แค่เพียงนึกคิด
ขอความปรารถนาทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้ตั้งใจไว้ดีแล้วนี้ จงมีแก่ข้าพเจ้าไปทุกภพทุกชาติ ตราบวันไปถึงที่สุดแห่งธรรมจงทุกประการเทอญ นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
(ผู้อธิษฐานนี้ปรารถนาเป็นธรรมกาย ปรารถนาได้มรรคผลนิพพาน ขณะเดียวกันก็ปรารถนามนุษย์สมบัติ ทิพย์สมบัติ ปรารถนาเป็นธาตุธรรมของหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ แต่ไม่เข้าใจวิชชาธรรม
กายอย่างแท้จริง ได้เรียนรู้วิชชามาอย่างผิด ๆ และยังปรารถนาติดตามผู้ที่ไม่เป็นวิชชาของหลวงพ่อฯอีกด้วย ท่านอ่านแล้วแยกออกไหมว่าอธิษฐานเอากิเลสพอกใจไว้กี่ชนิด)
องค์ประกอบ 4 ข้อ
1.จิตที่บริสุทธิ์ สะอาด เป็นบาทฐานกำลัง ทำให้จิตสะอาดผ่องใสได้ด้วยการสร้างบุญด้วยการทำทาน ถือศีล เจริญภาวนา และที่ส่งผลให้สว่าง สะอาดที่สุด คือการฝึกวิชชา 18 ธรรมกาย2.บุญบารมีเก่าและใหม่จะเชื่อมกันและต้องครบถ้วนสมบูรณ์การอธิษฐานจึงจะบรรลุเป้าหมาย
3.จุดประสงค์แห่งการอธิษฐานที่ต้องเป็นสิ่งที่ดีที่งามเป็นสิ่งที่จะเอื้อประโยชน์ต่อตนเอง และผู้อื่นถูกต้องทางธรรม ไม่ขัดแย้งกัน การอธิษฐานนั้นจึงจะมีความสัมฤทธิ์ผลได้ หรือจะเรียกว่าการ
อธิษฐานที่เต็มไปด้วยกิเลส ด้วยความเห็นแก่ได้อย่างนี้จะสำเร็จผลได้ยาก การอธิษฐานที่ปิดทางคนอื่น ไปพรากประโยชน์คนอื่น หรือด้วยการต้องการให้คนอื่นเป็นทุกข์ นั้นไม่ใช่การอธิษฐาน
แต่เป็นการสาปแช่ง และไม่มีทางเกิดผลได้อย่างแน่นอน
4.อย่าอธิษฐานให้เกินบุญของตน หลังจากอธิษฐานอย่างถูกต้องแล้ว ต้องลงมือปฏิบัติสร้างบุญกุศลตามที่อธิษฐาน จนเกิดเป็นดวงบารมี ดังนั้นดวงบารมีคือประสบการณ์ของการทำความดี 10 ประการ
บารมีนั้นมี 30 ประการ คือ ทานบารมี – ศีลบารมี – เนกขัมมะบารมี – ปัญญาบารมี – วิริยะบารมี – ขันติบารมี – สัจจะบารมี – อธิษฐานบารมี – เมตตาบารมี – และอุเบกขาบารมี รวมเป็น 10
เมื่อบารมีแก่กล้าเต็มสี่วน ก็จะกลั่นตัวเองเป็นอุปบารมีอีก 10 และเมื่ออุปบารมีแก่กล้าขึ้นเต็มส่วน ก็จะกลั่นตัวเองเป็นอุปบารมีอีก 10 และเมื่ออุปบารมีแก่กล้าขึ้นเต็มส่วน ก็จะกลั่นตัวเองเป็นปรมัตถ
บารมีอีก 10 รวมเป็น 30 ประการ
ส่วน “รัศมี” นั้นก็มาจากบารมี 30 นั่นเอง แต่กลั่นเป็นแสงสว่างรุ่งโรจน์โชติช่วงขั้น เป็นรัศมีสว่าง
“กำลัง” คือความแรงและความแก่กล้าของบารมี 30 นั้นแรงกล้าขึ้น
ส่วน “ฤทธิ์” นั้นคือ ผลสำเร็จของบารมี 30 นั้น คือตัวยึดสิทธินั่นเอง
หมายความว่า “ฤทธิ์” คือกลไกของ “บารมี 30” ฤทธิ์เป็นตัวปฏิบัติการให้การอธิษฐานสำเร็จผลตามเป้าหมาย แต่ต้องไม่เกินกำลังของ “ดวงบารมี 30” นั้น ดังนั้นการทำบุญระดับต่ำจะอธิษฐาน
ให้เกิดผลในระดับสูงจึงเป็นไปไม่ได้นะครับ เช่นทำบุญ 20 บาทอธิษฐานให้ถูกหวย 100 ล้าน ก็ไม่เกิดผลนะครับ
ท่านอาจารย์คุณลุงการุณย์ บุญมานุช ได้อธิบายการอธิษฐานบารมีไว้ดังนี้
การอธิษฐานบารมี มี 3 แบบคือ 1.แบบชาวบ้าน 2. แบบบัณฑิต 3. แบบผู้รู้
1.แบบชาวบ้าน เป็นแบบพื้นฐานทั่วไป เช่น
อธิษฐานให้ได้ มรรค 4 ผล 4 และนิพพาน 1 (คือบรรลุพระกายธรรมพระโสดา กายธํรรมพระสกิทาคามี กายธรรมพระอนาคามี กายธรรมพระอรหัตต์ ทั้งมรรคและผล แล้วเข้านิพพาน)อธิษฐานให้มีดวงตาห็นแจ้งในธรรม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
อธิษฐานให้มีปัญญาประเสริฐ รูปกายประเสริฐ ทรัพย์ประเสริฐ ครอบครัวประเสริฐ เป็นต้น
อธิษฐานให้ได้มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 ตั้งแต่บัดนี้ คือต้องการเดี๋ยวนี้ ไปรอชาติหน้าทำไม หากไม่สมประสงค์ในชาตินี้ บุญนั้นก็จะต้องอุปการะอีก
อธิษฐานให้มีดวงตาเห็นธรรม บริสุทธิ์ สมบูรณ์ บริบูรณ์ ด้วยผลทาน ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ และวิมุตติญาณทัสสนะ โดยสัมมาทิฐิ สุข สมบูรณ์ บริบูรณ์ด้วยมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ
นิพพานสมบัติ อันมีมรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 จงปราศจากเหตุวิบัติ บาปศักดิ์สิทธิ์ ภัยพิบัติ ภัยสงคราม ภัยธรรมชาติ โรคาพยาธิ และอวิชชา ตัณหา อุปาทาน อันเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งหลาย
จงเป็นผู้ปราศจาก
อภิชธา พยาบาท มิจฉาทิฐิ
โลภะ โทสะ โมหะ
ราคะ โทสะ โมหะ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย อวิชชานุสัย
สักกายทิฐิ สีลัพพตปรามาส วิจิกิจฉา
กามราคะ พยาบาท รูปราคะ อรูปราคะ
มานะ อุทธัจจะ อวิชชา
ให้สมบูรณ์บริบูรณ์ด้วย
ทาน ศีล ภาวนา
ศีล สมาธิ ปัญญา
อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา
ปฐมมรรค มรรคจิต มรรคปัญญา
ตรัสรู้เป็น โคตรภู พระโสดา พระสกิทาคามี พระอนาคามี พระอรหัตต์ และตรัสรู้ในตรัสรู้ เข้านิโรธในตรัสรู้ ตรัสรู้ในนิโรธ ตรัสรู้ไปสุดหยาบสุดละเอียด ไม่ถอยหลังกลับ
อย่าได้ประพฤติผิดในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดามารดา อุปัชฌาย์อาจารย์ อนันตริยกรรม 5 ปาราชิก 4 ให้มีใจตั้งอยู่กับพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ญาณะและ
มีศีลบริสุทธ์
ให้ได้เกิดในแดนของพุทธศาสนา ได้ฟังธรรม รักษาศีล เจริญภาวนา และเป็นธรรมทายาท ได้บวชในพุทธศาสนา ได้อุปัฏฐากพระศาสนา ตลอดอายุขัยของตน
เมื่อใกล้ตาย ถึงวาระจะหมดอายุขัย ขอให้ใจระลึกถึงบุญได้ และใจนิ่งอยู่กับพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ และไปสุคติ
ให้มีสติในกาลทุกเมื่อ และใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกาย ให้หยุดถูกสิบ ถูกศูนย์ ถูกส่วน เข้ากลางของกลาง เรื่อยไปไม่ถอยหลังกลับ ให้เข้าถึงพระรัตนตรัย
ตามที่กล่าวนี้ เป็นตัวอย่าง ก่อนที่จะอธิษฐานต้องคิดให้รอบคอบ ว่าจะอธิษฐานว่าอะไร เพื่อประสงค์อะไร คิดหาเหตุผลให้ดี เมื่อคิดได้แล้ว จำต้องคิดต่อไปว่า จะทำบุญอะไรแรง
อธิษฐานนั้นจึงจะสมเหตุสมผล ไม่ใช่ว่าทำบุญเล็กน้อยแล้วอธิษฐานเอาแต่เรื่องใหญ่เรื่องโต อย่างนั้นไม่สมเหตุสมผล ทำบุญอะไร จะอธิษฐานอะไร สมควรกับความปรารถจนาของเรา
หรือไม่ คิดให้ดี คิดให้รอบคอบ บุญประเภทใดที่ท่านยังไม่ได้ทำ อะไรบ้างที่ท่านยังไม่ได้อธิษฐาน ควรวางแผนไว้ตลอดชีวิตของท่าน
ต่อเมื่อท่านทำกุศลครบถ้วน และได้อธิษฐานไว้ครบกระบวนความแล้ว จนท่านเกิดความรู้สึกว่า บัดนี้ ท่านสร้างบารมีครบถ้วนแล้ว จะตายวันนี้วันพรุ่งนี้ เราก็พร้อมที่จะตาย
ถ้าเป็นอย่างนี้ เรียกว่าใช้ได้
การอธิษฐานที่สำคัญ ได้แก่ การอธิษฐานเป็นสัพพัญญูพระพุทธเจ้า เป็นอัครสาวก อุปัฏฐากสาวก อสีติสาวก เป็นพุทธบิดา เป็นพุทธมารดา ท่านให้ทำในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา
2.แบบบัณฑิต ก็เปิดตำราพระไตรปิฎกแล้วอธิษฐานตามพระไตรปิฎกตามบทที่ตนชอบ เช่น
อธิษฐานให้บรรลุ ปุพเพนิวาสานุสติญาณอธิษฐานให้บรรลุ จุตูปปาตญาณ
อธิษฐานให้บรรลุ อาสวักขยญาณ พรั่งพร้อมไปด้วยจตุปฏิสัมภิทาญาณ เป็นต้น
3.แบบผู้รู้ ยังแบ่งได้เป็น 4 ระดับ
คือระดับ ก. ,ระดับ ข, ระดับ ค, และระดับ งระดับ ก.
บารมีที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญแล้วนี้ ขอให้เห็น-จำ-คิด-รู้ ของข้าพเจ้าทุกดวง จงเป็นธาตุขาวธรรมขาว – ธาตุใสธรรมใส กำจัดทุกข์ – กำจัดภัย – กำจัดโรคได้จริง ๆบารมีนี้ขอให้ ดวงกาย – ดวงใจ – ดวงจิต – ดวงวิญญาณ ของข้าพเจ้าทุกดวง จงเป็นธาตุขาว – ธรรมขาว ธาตุใสธรรมใส กำจัดทุกข์ – กำจัดภัย – กำจัดโรคได้จริง ๆ
ต้องบำเพ็ญบารมีควบคู่กับการอธิษฐานกำกับบารมีไปเช่นนี้ระยะหนึ่ง (5-10) ปี โดยต้องวางพื้นฐานข้อนี้ ให้เป็นพื้นฐานที่มั่นคงก่อน ทำไปให้นานปี จนดวงบารมีโต จึงเลื่อนชั้นต่อไป
(ระดับนี้ เราไม่ได้บอกว่าเราจะสู้มาร เราเพียงแต่ป้องกันตัวเราไม่ให้มีโรคภัยเท่านั้น)
ระดับ ข.
บารมีที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญแล้วนี้ ขอให้มรรค 4 ผล 4 ของข้าพเจ้า กำจัดอวิชชาได้จริง กำจัดทุกข์ – กำจัดภัย – กำจัดโรค ได้จริงบารมีนี้ขอให้ดวงธรรมทั้ง 6 ของข้าพเจ้าทุกดวงจงเป็นธาตุตรัสรู้ธรรมตรัสรู้ กำจัดทุกข์ – กำจัดภัย –กำจัดโรค ได้ทุกรูปแบบ
บำเพ็ญบารมีควบคู่กับการอธิษฐานกำกับบารมีไปเช่นนี้ระยะหนึ่ง (5-10) ปี จนดวงบารมีโตถึงขีดขั้นแล้ว จึงเลื่อนชั้นต่อไป
(ระดับนี้ เราไม่ได้บอกว่าเราจะสู้มาร เราเพียงแต่ป้องกันตัวเราไม่ให้มีโรคภัยเท่านั้น)
ระดับ ค.
บารีมีที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญแล้วนี้ขอให้ดวงนิโรธ – ดวงสมาบัติ – ดวงตรัสรู้ –ดวงคำนวณ ของข้าพเจ้าทุกดวง จงทะลุไปได้ตลอด
ให้เป็นธาตุตรัสรู้ธรรมตรัสรู้
ให้เป็นธาตุเป็นธรรมเป็น
ให้เป็นธาตุชนะธรรมชนะ
บำเพ็ญบารมีควบคู่กับการอธิษฐานกำกับบารมีไปเช่นนี้ระยะหนึ่ง(5-10)ปี จนดวงบารมีโต
ถึงขีดขั้นแล้วจึงเลื่อนชั้นเป็นระดับง.คือภาคปราบต่อไป
(ระดับนี้ เราไม่ได้บอกว่าเราจะสู้มาร เราเพียงแต่ป้องกันตัวเราไม่ให้มีโรคภัยเท่านั้น)
ระดับง.
เป็นการอธิษฐานที่จะสู้กับมารแล้วการอธิฐานบารมีแบบ ชาวบ้าน แบบบัณฑิต และแบบผู้รู้ ระดับ ก, ข, ค, (ยกเว้น ระดับ ง.) ทั้งหมดนี้ เรามี่ได้ปราบมาร มารก็อ้างไม่ได้ว่าเราจะสู้เขา นี่คือความฉลาด !
ถ้าเราอธิษฐานว่าจะสู้มาร มารก็จ้องจะบดขยี้เรา ! เพราะยังไม่เคยมีใครชนะมารเลย
เราต้องคิดประเด็นนี้ไว้ เราต้องมีความรู้พื้นฐานตามที่ให้ไว้เป็นข้อ ๆ นี้ก่อน เพื่อเราจะได้ข้อคิดว่า เราจะทำอย่างไรในการอธิษฐาน ? จึงจะปลอดภัยที่สุด ! นี่คือข้อคิดข้อเตือนใจ
! จงทำความเข้าใจให้จงได้ ! เราอธิษฐานอะไร ? มารเขาก็รู้ เพราะเขาติดตามดูอยู่ ต้องเข้าใจว่า มารเขาพลิกธาตุธรรมภาคขาวให้เป็นภาคมารได้ ตัวอย่างมีมาแล้ว ! จำไว้ ! จำไว้ ! จำไว้ !
เราต้องวางพื้นฐานในการบำเพ็ญบารมีไว้ให้มั่นคง เหมือนทำฐานเจดีย์ โดยเรคาต้องหมั่นประเมินผลตัวเองอยู่เนือง ๆ ว่า เราทำความดีประเภทใดไว้บ้าง ? ระยะเวลาในการ
บำเพ็ญบารมีประเภทนั้น ๆ ยาวนานแค่ไหนแล้ว ? อีกทั้งเราได้อธิษฐานอะไรเอาไว้บ้าง ?
วิบูลย์ ต้องเรียนรู้ให้ลึก จึงจะรู้ ! อย่าทำอะไรโดยขาดการเรียนรู้เป็นอันขาด ! อย่าทำอะไร ๆ ด้วยความฟุ้งซ่านทางปัญญา หรือด้วยความสะใจทางอารมณ์ส่วนตัวเป็นอันขาด !
ถ้าทุกท่านทำตามที่ท่านอาจารย์คุณลุงการุณย์ บุญมานุช แนะนำนี้ได้ มารจะพลิกธาตุธรรมของเราไม่ได้ เพราะเหตุใด ? จงดูเหตุผลประกอบเป็นลำดับไปเป็นข้อ ๆ จงดูทุกข้อให้เข้าใจ
มารพลิกธาตุธรรมได้เฉพาะพวกที่ เห็น – จำ – คิด – รู้ เลอะเทอะเหลวไหลมาแต่เดิมเป็นส่วนใหญ่ แม้จะสร้างบารมีสักเท่าไร ? ก็เอาตัวรอดยาก ! เพราะมารเขารู้จุดอ่อนของเราแล้ว
เขาจะคอยให้เราสร้างบารมีจนโตเมื่อไร ? มารเขาก็จะมาเอาไปเมื่อนั้น ! เขาคอยจังหวะอยู่แล้ว เหมือนเราคอยให้มะม่วงสุก สุกเมื่อไร ? ถูกเด็ดมากินเมื่อนั้น !
นี่คือความรู้ที่สำคัญมาก ! เราต้องเรียนรู้ไว้ให้ได้ ถ้ามารเขารู้ว่าเราสร้างบารมีเพื่อไว้สู้เขา เขา
ก็เตรียมรังแกเราทุกรูปแบบ จำคำลุงไว้ !
เดี๋ยวเจอกันในห้องปฏิบัติธรรมนะครับ ผมขอไปทานข้าวก่อน ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น